ความทรงจำนั้นที่ฉันยังไม่ลืม The first time to go Concert - ความทรงจำนั้นที่ฉันยังไม่ลืม The first time to go Concert นิยาย ความทรงจำนั้นที่ฉันยังไม่ลืม The first time to go Concert : Dek-D.com - Writer

    ความทรงจำนั้นที่ฉันยังไม่ลืม The first time to go Concert

    สำหรับวีไอพีและคนที่ชอบเกาหลีเข้ามาเลยนะ!!

    ผู้เข้าชมรวม

    204

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    204

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.ค. 56 / 10:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

    ....นี่เป็นการเขียนไดอารี่ระลึกถึงความทรงจำที่ผ่านมาแล้ว แต่มันยังอยู่ในใจฉันตลอดไป...”

    @ 2013/06/15   Friday  20.00 pm






    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ความทรงจำนั้นที่ฉันยังไม่ลืม

      The first time to go Concert[GD worldtour Concert]

      2013/07/01   Monday 23.50  pm

       

      ....นี่เป็นการเขียนไดอารี่ระลึกถึงความทรงจำที่ผ่านมาแล้ว แต่มันยังอยู่ในใจฉันตลอดไป...”

      @ 2013/06/15   Friday  20.00 pm  

          เราเชื่อว่าความใฝ่ฝันขอคนที่ชอบเกาหลีทุกคน ไม่ว่าจะติ่ง จะแฟนคลับหรือชิปเปอร์ คือ...การได้ไปคอนฯของศิลปินที่เราชอบ เราเริ่มเป็นวีไอพีมาตั้งแต่มอห้าตอนนี้มหาลัยปีสามแล้วรวมๆอายุการเป็นวีไอพีของเราก็ห้าปี แต่ห้าปีนี้ไม่มีโอกาสสักครั้งที่จะได้ไปคอนฯแบบคนอื่นเขา เหตุผลน่ะเหรอ? ก็มีเยอะนะ เช่น บัตรแพงเราจ่ายไม่ไหว พ่อแม่ไม่สนับสนุน การเดินทางเข้ากรุงเทพฯคนเดียวของคนบ้านนอกอย่างเรามันอันตรายเกินไป ฯลฯ  แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตในรั้วมหาลัยเราจะมีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและการมาเรียนต่อครั้งนี้มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการไปดูคอนฯในครั้งนี้

          เรามีโอกาสได้มาเรียนต่อที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่เราถือได้ว่ามีแฟนคลับที่รุนแรงและน่ากลัว แม้จะอยู่ไกลถึงต่างประเทศต้องเรียนและทำอะไรอย่างมากมายแต่การติดตามข่าวสารของพวกหนุ่มๆไม่เคยจางหายไปในสาระระบบชีวิตเลย แล้ววันนั้นก็ได้รู้ข่าวว่าควอนจียง ลีดเดอร์ของบิ๊กแบงจะจัดคอนเสิร์ตทัวร์รอบโลกนั่นก็รู้สึกตื่นเต้นมากและก็ติดตามข่าวเป็นระยะๆ ตอนแรกหวังไว้ว่าจะได้ไปร่วมคอนเสิร์ตที่ไทย ทำโปรเจคร่วมกับพี่ๆน้องๆวีไอพีไทย แต่เมื่อตารางการแสดงคอนเฟิร์มวันและเวลาที่แน่นอนแล้วเราคงกลับไปไม่ได้ เพราะที่ไทยจัดก่อนที่นี่ดังนั้นก็เลยตัดสินใจเข้าคอนที่นี่ไปซะเลย อีกอย่างแม่ก็ไม่รู้ด้วย แต่ที่น่าเสียดายคือเราอยู่บัตรยอดดอยเห็นไม่ชัดสัมผัสไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรแค่ได้เข้าไปร่วมร้องร่วมเต้นและไปเห็นหน้าหนุ่มๆสักครั้งมันก็เป็นบุญของเราแล้ว เมื่อวันเวลาใกล้เข้ามาหัวใจมันก็ตื่นเต้นเพิ่มขึ้นมากเท่านั้นและสิ่งที่ทำให้เราร้องไห้โฮเลยนั่นก็คือก่อนวันคอนประมาณสามสี่วัน ทางผู้จัดคอนเสิร์ตที่อินโดฯคอนเฟิร์มถึงแขกรับเชิญที่จะมาร่วมในคอนจียงว่าเป็นพี่ท็อป(ซึ่งเป็นเมนเราและเป็นสามีของจียง) มันรู้สึกเหมือนถูกรางวัลที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ดีใจยิ่งกว่าได้เงินสิบล้านซะอีก(ไม่จริง อ่าๆๆ)

      เมื่อวันคอนฯมาถึงหัวใจก็แทบเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดว่าจะได้เจอสามีและภรรยาขึ้นเวทีร่วมกัน(?) วันนั้นออกจากหอไปก่อนเวลาสามชั่วโมง ไปเดินเตร็ดเตร่หาซื่อของซื้อแท่งไฟอยู่แถวๆหน้าคอนฯ ไม่นานเวลาสามชั่วโมงมันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วและเข้าสู่เวลาที่จะทำให้ฉันใจเต้นแรง

      ตอนแรกที่เข้าไปก็จะมีการตรวจกระเป๋า วันนั้นตื่นเต้นมากเพราะเราเอากล้องเข้าไปด้วยกลัวว่าจะตรวจเจอ แต่โชคดีที่กระเป่าเรามีที่ลับเขาก็เลยหาไม่เจอและก็รอดตัวไปและมันยังไม่จบแค่นั้นยังมีอีกด่านรออยู่ข้างหน้าและไอ้ด่านข้างหน้าเหมือนจะตรวจละเอียดกว่าที่ผ่านมาแต่เพราะที่ลับนั้นอีกเช่นกันจึงทำให้เขาหาไม่เจอ เข้าไปได้ไม่ถึงสิบนาทีเสียงเพลงและแสงสีเสียงก็ดังขึ้นอย่างคึกโคม มันช่างน่าระทึกใจเหลือเกินและไม่นานก็ตามมาด้วยแม่นางจียง ตอนแรกที่เห็นนางน้ำตาแทบไหลแต่พอหันไปมองเจอคนข้างหน้าที่ร้องไห้อยู่มันก็หมดอารมณ์ทันทีและเหมือนนางจะเป็นแฟนคลับท็อปด้วย

      เราโบกแท่งไฟและแดนซ์อย่างสนุกสนานพอพี่ท็อปออกมา(ด้วยสูทสีชมพู)มันก็จะร้องไห้อีกครั้งแต่ก็ร้องไม่ออกเพราะนังคนข้างหน้าอีกเหมือนเดิม เวลาแห่งความสนุกผ่านไปสองชั่วโมง และแล้วคอนเสิร์ตก็ต้องมีวันเลิกรา ตอนที่จียงบอกลา...รู้สึกเหมือนอยากจะเดินเข้าไปกอดขาแล้วบอกว่าออนนี่อย่าเพิ่งไป เรายังอยากสนุกกับคุณอีก แต่ก็นะเราก็ทำได้แค่คิด

         เมื่อคอนจบก็ออกมารอแท็กซี่ แต่รู้ไหมว่าอะไรที่ทำให้เราเสียใจที่สุด ก็ตอนรอแท็กซี่ รถที่ท็อปกับจีนั่งกลับโรงแรมมาจอดอยู่ตรงหน้าเราห่างออกไปแค่สี่ห้าก้าว ก็เห็นคนอื่นเค้ากรี๊ดกร๊าดกันนะ เราก็รู้ว่าเป็นหนุ่มๆแต่เราเจือกไปดูผิดคันไง คุณลองคิดดูนะ มีรถตำรวจ(มอไซค์)สองคันนำหน้า รถตำรวจอีกคันตามและก็มีรถตู้สีดำคันหนึ่งตามรถตำรวจและรถตู้ลักษณะแบบเดียวกันตามอยู่ข้างหลังอีกคัน ถ้าเป็นคุณคุณคิดว่าหนุ่มๆนั่งอยู่คันไหน? คุณคงจะเดาได้แต่เราเดาไม่ได้เจือกไปมองคันหน้าที่ตามติดรถตำรวจ พอรู้อีกทีว่าหนุ่มๆนั่งอีกคันมันก็สายไปเสียแล้ว รถคันนั้นแล่นผ่านหน้าเราไปอย่างไม่ใยดี  ความจริงก็อยากจะตามไปที่โรงแรมหรือไปสนามบินแต่ด้วยเพราะเราไม่รู้ที่รู้ทางและเพื่อนที่ไปด้วยก็ไม่อยากให้ไปเพราะเป็นห่วงเราก็เลยอดเลย...

         ฉันรู้สึกว่ามันเป็นโชคดีของเรามากเลย ตอนแรกเราจะได้ไปเรียนที่อีกเกาะหนึ่งของอินโดฯแต่อาจารย์ก็เปลี่ยนใจให้มาเรียนที่เมืองหลวง ถ้าหากว่าอาจารย์ไม่เปลี่ยนใจให้เรามาที่จาการ์ต้าเราก็คงจะยังไม่มีโอกาสได้เจอหนุ่มๆ แล้วมันก็โชคดีที่ท็อปยอมมาเป็นแขกรับเชิญของที่นี่(ก็อินโดฯเด็กพี่เค้าเยอะ พูดถึงตรงนี้ก็เซ็งเบาๆ) แต่อย่างไรก็ตามแม้เราจะยังไม่มีโอกาสเจอครบทั้งห้าคนได้ได้มาเจอตัวพ่อกับตัวแม่มันก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว และครั้งนี่มันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของฉันในการไปคอนฯน่นอน ครั้งที่สอง สาม สี่และครั้งต่อๆไปยังรอเราอยู่

         นี่แหละคือความประทับใจและความทรงจำทั้งหมดที่มี ความจริงมันบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสิไม่ได้หรอกแต่เราก็พยายามกลั่นมันออกมา(ได้แค่นี้) ฝากถึงแฟนคลับวงอื่น ฝากถึงพี่ๆน้องๆวีไอพี ใครที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปคอนฯของศิลปินที่ชอบเราเชื่อว่าสักวันคุณจะมีโอกาสนั้น และบางทีโอกาสก็กำลังรอคุณอยู่ข้างหน้าแล้วก็เป็นได้

      ....สู้ๆต่อไป เก็บเงินเก็บทอง คอนฯมีเมื่อไหร่แล้วเจอกัน ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ.....

      END.......

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×